ตามประกาศของ กสทช. เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 เรื่องการยืนยันตัวตนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2567 กำหนดให้ผู้ที่ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 6 หมายเลข/ค่าย ขึ้นไปต้องดำเนินการยืนยันตัวตนใหม่
สำหรับลูกค้า FINN MOBILE ท่านสามารถยืนยันตัวตนได้ตามขั้นตอนนี้
ลูกค้าที่ต้องยืนยันตัวตน
1. ลูกค้าที่ถือครองซิมการ์ดของ dtac และ FINN MOBILE รวมกันตั้งแต่ 6-100 เบอร์
ยืนยันตัวตนภายในวันที่ 13 กรกฏาคม 2567
2. ลูกค้าที่ถือครองซิมการ์ดของ dtac และ FINN MOBILE รวมกันตั้งแต่ 101 เบอร์ขึ้นไป
ยืนยันตัวตนภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567
สิ่งที่ต้องเตรียมในการยืนยันตัวตนกับทาง FINN MOBILE
1. รูปถ่ายบัตรประชาชน ต้องชัดเจน ไม่มีการปิดบังส่วนใดของเอกสาร และควรวางบัตรในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอและไม่มีแสงสะท้อน
2. รูปถ่ายเซล์ฟี่คู่กับบัตรประชาชน ถ่ายภาพหน้าตรง ถอดหมวก แว่นตา ผ้าปิดปาก และถ่ายภาพในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอให้ตรงตามรูปในบัตร รูปถ่ายเซล์ฟี่ควรเป็นภาพที่ถ่ายไม่เกิน 3 เดือนก่อนการยืนยันตัวตน
ขั้นตอนการยืนยันตัวตนกับทาง FINN MOBILE
1. ติดต่อเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าผ่านช่องทาง Live Chat ที่หน้าเว๊ปไซต์ www.finnmobile.io หรือทางแอพพลิเคชั่น FINN MOBILE แจ้งความประสงค์ขอยืนยันตัวตน
2. แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้รับข้อความแจ้งเตือนการยืนยันตัวตนทาง SMS ต่อเจ้าหน้าที่ และตอบคำถามเบื้องต้นเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของหมายเลข
3. เตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน
4. ตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของหมายเลข FINN MOBILE ที่ถือครองอยู่
5. ส่งเอกสารให้เจ้าหน้าที่ผ่านช่องทางแชท ให้ครบถ้วน จบขั้นตอนการยืนยันตัวตน
หมายเหตุ: การยืนยันตัวตนจะใช้ระบบวิเคราะห์ใบหน้าเพื่อยืนยันความถูกต้อง หากรูปที่ลูกค้าส่งให้ทาง FINN MOBILE ไม่ตรงตามเกณฑ์ เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับทางอีเมล์เพื่อขอรูปเอกสารใหม่อีกครั้ง
คำถามที่พบบ่อย
1. ทำไมต้องทำการยืนยันตัวตน
- เป็นการดำเนินการตามประกาศของ กสทช. ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
2. สามารถยืนยันตัวตนผ่านช่องทางไหนบ้าง
- ลูกค้าFINN MOBILE สามารถยืนยันตัวตนผ่านช่องทาง Live Chat บนหน้าเว็ปไซต์ www.finnmobile.io หรือทาง Application FINN MOBILE
3. หากลูกค้าไม่ยืนยันตัวตนภายในระยะเวลาที่กำหนดจะเกิดอะไรขึ้น
- ตามประกาศ กสทช เบอร์ลูกค้าจะถูกระงับการใช้งาน ไม่สามารถโทรออก หรือเล่นอินเตอร์เน็ตได้ แต่ลูกค้าจะยังสามารถรับสายได้ โดยจะสามารถโทรออกได้เฉพาะเบอร์ฉุกเฉิน เช่น 191,1669 อื่นๆ และ เบอร์คอลเซ็นเตอร์ 02-202-8585
เพื่อให้เบอร์กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ลูกค้าสามารถทำการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนในข้อ 2 หลังยืนยันตัวตนสำเร็จ จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ยอดคงค้างชำระ
4. ลูกค้าที่ได้รับ SMS ต้องยืนยันตัวตนภายในกี่วัน
ทาง กสทช. กำหนดตามจำนวนซิมการ์ดที่ลูกค้าถือครองค่ะ
- 6-100 หมายเลข ยืนยันตัวตนภายใน 13 ก.ค 67
- 101 หมายเลขขึ้นไป ยืนยันตัวตนภายใน 14 ก.พ 67
5. ช่องทางออนไลน์ผ่านเว็ปไซต์ ต้องยืนยันตัวตน ผ่านมือถือเท่านั้น หรือผ่าน tablet / notebook / PC ได้หรือไม่
ลูกค้าที่ต้องการยืนยันตัวตนผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถดำเนินการผ่านเว็ปไซด์ ติดต่อทาง LIVE Chat ด้วย
- มือถือ
- Tablet
- PC/Laptop
6. หากยืนยันตัวตนผ่าน ช่องทางออนไลน์ผ่านเว็ปไซต์ แล้ว ข้อมูลจะ Update ทันทีเลยหรือไม่
- เบอร์ที่ลูกค้ายืนยันตัวตนแล้วจะ update ภายใน 24 ชม.
7. หากปัจจุบันลูกค้าที่มีหมายเลขที่ถือครองน้อยกว่าที่ กสทช. กำหนด แต่ได้รับ SMS ให้มายืนยันตัวตน ต้องทำการยืนยันตัวตนหรือไม่
- กรุณายืนยันตัวตนภายในระยะเวลาที่กำหนด
ุ8. ลูกค้าสามารถเช็คได้ด้วยตนเองว่าหมายเลขของตัวเอง ว่ายืนยันตัวตนแล้วหรือไม่ผ่านช่องทางไหน
- ลูกค้าสามารถเช็คการยืนยันตัวตนผ่านช่องทางLive Chat บนหน้าเว็ปไซต์ www.finnmobile.io หรือทาง Application FINN MOBILE
9. หากปัจจุบันมีหมายเลขที่ถือครองมากกว่าที่ กสทช.กำหนด แต่ช่องทางออนไลน์ผ่านเว็ปไซต์ ไม่พบหมายเลขที่เพิ่งเปิดเบอร์ ต้องลงทะเบียนหมายเลขที่เพิ่งเปิดเบอร์เพิ่มเติมหรือไม่
- ไม่ต้องยืนยัน สำหรับหมายเลขที่เปิดใช้บริการหลังวันที่ 1 ธค 2566 เป็นต้นไป
สามารถตรวจสอบว่าได้ยืนยันทุกหมายเลขตามกำหนดของกสทช.หรือไม่ ผ่านทาง Live Chat บนหน้าเว็ปไซต์ www.finnmobile.io หรือทาง Application FINN MOBILE
10. หากไม่มายืนยันตัวตนตามที่กำหนด และเบอร์ถูกยกเลิกไป สามารถขอกลับมาใช้เบอร์เดิม ได้ตามขั้นตอนปกติ หรือ มีระยะเวลานานกว่า
- หากหมายเลขถูกยกเลิกบริการจะสามารถกลับมาใช้หมายเลขเดิมได้ภายในระยะเวลาเดิมที่ได้กำหนดไว้ ทั้งนี้จะต้องทำการยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยก่อน